และเราก็ได้เดินทางมาถึง 10 นัดสุดท้ายของฟุตบอล ลาลีก้า สเปน ฤดูกาล 2009/2010 กันเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ เมื่อเราไปดูตารางคะแนนก็เป็นไปตามคาด แชมป์แห่งยุโรป บาร์เซโลน่า และ คู่ปรับตลอดกาลอย่าง เรอัล มาดริด เจ้าของฉายา “กาลาคติกอส” ก็นำโด่งคู่แข่งร่วมลีก มีคะแนนเท่ากัน
ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ทีมซึ่งทุ่มเงินไปมหาศาล ราวๆ 250 ล้านยูโร ซื้อผู้เล่นระดับโลกมามากมาย ตอนนี้นั่งสูดอาการอยู่บนยอดของตารางคะแนนฟุตบอลลาลีก้า เหนือ บาร์เซโลน่า อันดับสอง แต่ส่วนต่างของสองทีมก็เป็นเพียงแค่ประตูได้เสีย 2 ประตู อย่างไรก็ตาม สื่อ, กองเชียร์ และ ผู้สันทัดกรณี ฝั่งชุดขาวก็ต่างมั่นใจว่า แชมป์อยู่ในมือเขาแล้ว ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวพวกเขาเอง ว่าจะทำหล่นจากมือหรือไม่
ทางฝั่ง บาร์เซโลน่า แชมป์ 6 รายการในฤดูกาลเดียว ถูกขนานนามว่าเป็น บาร์เซโลน่า ชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ มันก็คงไม่แปลกอะไรถ้า สื่อ, กองเชียร์ และ ผู้สันทัดกรณี ฝั่งสีเลือดหมูจะเห็นว่า การคว้าสองแชมป์ เป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินเอื้อม
เหลือเกมส์ให้เล่นกันแค่ 10 เกมส์ และ หนึ่งในนั้นเป็นเกมส์แห่งศักดิ์ศรี… El Clásico…เราพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า เรากำลังจะเข้าใกล้โค้งสุดท้ายของฤดูกาลไปในทุกขณะ…
อันนี้เคยพิมพ์ไปแล้วในศึก เอล กลาสซิโก ครั้งก่อน (เป็นโพสต์แรกๆของบล็อคนี้เลย :])
หนึ่งในเกมส์ที่ผู้คนแฟนบอลทั้งโลกให้ความสนใจกันดีกว่าบาร์ซ่า เปิดคัปนูย์ต้อนรับการมาเยือนของ เรอัล มาดริด สองสโมสรที่ถือว่าเป็นสโมสรตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของสเปน และ ในปีนี้อาจจะรวมถึงการเป็นตัวเต็งในถ้วยยุโรปใบใหญ่ด้วยการกลับมาของประธานใหม่หน้าเก่าอย่าง ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ทำให้ เรอัล มาดริด เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง การนำเหล่าผู้เล่นระดับโลกเข้ามาด้วยกำลังเงินถึง 254 ล้านยูโร (โรนัลโด้, กาก้า, อลอนโซ่, เบนเซม่า,…) ทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน เป้าหมายของการทุ่มเงินครั้งนี้ก็ชัดเจน เพื่อที่จะคว่ำบัลลังค์ของทีมคู่แข่งสำคัญอย่าง บาร์เซโลน่า ฤดูกาลที่แล้วของ บาร์ซ่า ถือว่าเป็นฤดูกาลในฝันเลย การคว้าสามแชมป์เป็นทีมแรงในประวัติศาสตร์ของลีก ด้วยภาพการเล่นที่สวยงาม เรียกได้ว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก ขนาดว่า กุนซือหนุ่มไฟแรงอย่าง กวาดิโอล่า แทบจะอยากเลิกคุมทีมไปเลย เนื่องจากคงทำไม่ได้ดีอย่างนี้อีกแล้ว
ทั้งคู่เป็นสองสโมสรที่ถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ หลังคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี่ยนส์ลีกรวมกันถึง 5 จาก 12 ครั้งหลังสุด ส่วนในลาลีก้า ก็เป็นสองทีมนี้ที่เบียดแย่งแชมป์กัน เรียกว่าแทบจะผูกขาดความสำเร็จเลยก็ว่าได้ หลังจากคว้ารวมกันถึง 18 แชมป์จาก 21 ครั้งล่าสุด
สำหรับแฟนๆบอลสเปนคงไม่ต้องบอกถึงความสำคัญของคู่นี้มากนัก ว่ามันสำคัญแค่ไหน เกมส์นี้มันไม่ใช่เป็นแค่เกมส์ฟุตบอลธรรมดา มันเป็นมากกว่านั้น เป็นทั้งการเมือง ทั้งการต่อสู้ ทั้งสงครามของทั้งแฟนบอล และนักเตะในสนาม คงหาดูเกมส์ฟุตบอลที่เข้มข้นดุเดือดขึ้นถึงขีดสุดในโลกฟุตบอลยุคปัจจุบันขนาดนี้ยาก (อาจจะยกเว้น ริเวอร์เพลท กับ โบคาจูเนียร์) นอกจากนี้ ไฮไลท์ ของศึกครั้งนี้ที่ทำให้มีผู้คนพูดถึงมากกว่าครั้งไหนๆก็คงเพราะเหล่านักฟุตบอลระดับโลกของทั้งสองทีม จะมีให้ดูที่ไหนอีกที่ผู้เล่นระดับท็อปของโลกมาเตะแข่งกันในแมตช์เดียว ในบรรยกาศที่เข้มข้นขนาดนี้ (เมสซี่, โรนัลโด้, ซาบี, อินเนสต้า, อิบราฮิมโมวิช, เบนเซม่า, อลอนโซ่, ปูโยล, รามอส, อองรี, กาซิยาส, …., ….. )
เข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว…สุดท้ายใครจะเข้าวิน….รอลุ้นไปด้วยกัน!! ยิ่งเข้าใกล้เส้นชัยเข้าไป สถานการณ์คงเข้มข้นขึ้นๆ น่าติดตามจริงๆ…หลังจากนี้ LFPTH คงมารายงาน วิเคราะห์ โปรแกรมต่างๆ โดยเน้นการลุ้นแชมป์ระหว่าง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด เป็นหลัก! รอลุ้นด้วยกัน!!
ใส่ความเห็น